ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มความยั่งยืนของกระทรวงการคลังในกลุ่มนักลงทุนรายย่อย
รหัสดีโอไอ
Title ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มความยั่งยืนของกระทรวงการคลังในกลุ่มนักลงทุนรายย่อย
Creator ธนภรณ์ พงษ์หนาด
Contributor ศุภวัจน์ รุ่งสุริยะวิบูลย์, ที่ปรึกษา
Publisher มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Publication Year 2567
Keyword นักลงทุนรายย่อย, ความโปร่งใส, พันธบัตรเพื่อความยั่งยืน, ESG Bond, Greenium, Retail investors, Transparency, Sustainability Bonds
Abstract ตลาดตราสารหนี้ไทยมีขนาด 17.1 ล้านล้านบาท (ร้อยละ 95 ของ GDP) ในปี พ.ศ. 2567 โดยตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Bond) เติบโตขึ้น 7.66 เท่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แต่ยังคิดเป็นเพียงร้อยละ 4.8 ของตลาดตราสารหนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ESG Bond มีศักยภาพในการขยายตัวอยู่มาก โดยกระทรวงการคลังมีบทบาทนำด้วยการออก Sustainability Bond ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2563 และเป็นรัฐบาลแรกในเอเชียที่ออก Sustainability-Linked Bond ในปี พ.ศ. 2567 อย่างไรก็ตาม การศึกษาที่ผ่านมาส่วนใหญ่มุ่งเน้นศึกษาพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก และยังขาดความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งหากสามารถดึงดูดให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนได้จะช่วยขยายฐานการระดมทุน เพิ่มปริมาณเงินลงทุนเข้าสู่โครงการด้านความยั่งยืน และสร้างวัฒนธรรมการลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังไม่เคยจำหน่าย ESG Bond ให้กับประชาชนทั่วไปโดยตรง ทำให้การศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาตลาดในอนาคตการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการลงทุนและความแตกต่างของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มความยั่งยืนระหว่างกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่เคยลงทุนและกลุ่มที่ไม่เคยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มความยั่งยืนของกระทรวงการคลังในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยโดยผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 428 ราย ในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2568 ผ่านแบบสอบถามที่ครอบคลุมปัจจัยหลัก 6 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง ได้แก่ (1) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (2) ปัจจัยด้าน ESG (3) ปัจจัยด้านความโปร่งใส (4) ปัจจัยด้านนโยบาย (5) ปัจจัยด้านนักลงทุน และ (6) ปัจจัยด้านตลาด ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา การทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม และแบบจำลอง Binary Logistic Regressionผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 66.4) อายุ 30-39 ปี (ร้อยละ 36.2) มีการศึกษาระดับอุดมศึกษา (ร้อยละ 91.4) เป็นข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ(ร้อยละ 36.7) และมีรายได้ 15,001-30,000 บาทต่อเดือน (ร้อยละ 49.3) ระดับความสนใจลงทุนใน ESG Bond อยู่ในระดับปานกลางขึ้นไป ร้อยละ 93.2 โดยต้องการลงทุนน้อยกว่า 10,000 บาท (ร้อยละ 37.9) ในพันธบัตรอายุ 1 - 3 ปี (ร้อยละ 49.3) โดยเฉพาะ Sustainability Bond (ร้อยละ 40.2) และโครงการพลังงานทดแทน (ร้อยละ 54.9) โดยจากการวิเคราะห์ระดับความสำคัญ ปัจจัยด้านความโปร่งใสได้รับความสำคัญสูงสุด (ค่าเฉลี่ย 4.42) โดยเฉพาะปัจจัยด้านความโปร่งใสในการใช้เงินทุน (ค่าเฉลี่ย 4.48) ตามด้วยปัจจัยด้านตลาด (ค่าเฉลี่ย 4.32) ปัจจัยด้านนโยบาย (ค่าเฉลี่ย 4.28) ปัจจัยด้าน ESG (ค่าเฉลี่ย 4.22) ปัจจัยด้านนักลงทุน (ค่าเฉลี่ย 4.16) และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (ค่าเฉลี่ย 4.13) การเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มตัวอย่างพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน 6 ตัวแปร จากทั้งหมด 22 ตัวแปร โดยกลุ่มเคยลงทุนมีสัดส่วนเพศชายมากกว่ามีการศึกษาและรายได้สูงกว่า และให้ความสำคัญกับอัตราผลตอบแทนและสภาพคล่องมากกว่า กลุ่มไม่เคยลงทุน ในส่วนของการวิเคราะห์ด้วยแบบจำลอง Binary Logistic Regression พบว่า ส่วนต่างผลตอบแทน (Greenium) เป็นปัจจัยเดียวที่มีนัยสำคัญทางสถิติต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งสองกลุ่ม โดยในกลุ่มเคยลงทุน มี OR = 1.586 (p = 0.020) ขณะที่กลุ่มไม่เคยลงทุนมี OR = 2.127 (p = 0.002) แสดงให้เห็นว่ากลุ่มไม่เคยลงทุนให้ความสำคัญกับแนวคิดการแลกเปลี่ยนระหว่างผลตอบแทนกับคุณค่าด้านความยั่งยืนมากกว่า สำหรับกลุ่มเคยลงทุน อายุ (OR = 1.031, p = 0.037) และระดับการศึกษา (OR = 1.738, p = 0.043) ก็มีนัยสำคัญเช่นกันผลการศึกษาแตกต่างจากงานวิจัยที่ศึกษานักลงทุนสถาบันซึ่งพบว่าปัจจัยด้าน ESG ปัจจัยด้านความโปร่งใส และปัจจัยด้านนโยบายมีนัยสำคัญสูง เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยมีกระบวนการตัดสินใจที่เรียบง่ายกว่า มีความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่าง มีปริมาณการลงทุนที่น้อยกว่า และมุ่งเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนสูงสุด การศึกษานี้ให้ข้อเสนอแนะสำคัญสำหรับภาครัฐในการพัฒนาตลาด ESG Bond ที่เหมาะสมกับนักลงทุนรายย่อย โดยเน้นการสร้างความโปร่งใส การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการ การสร้างสภาพคล่องในตลาดการออกแบบมาตรการสนับสนุนสำหรับนักลงทุนใหม่ และการสื่อสารแนวคิด Greenium ให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ตลาด ESG Bond เติบโตได้อย่างยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม
Thammasat University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ