|
พลวัตหนี้ครัวเรือนไทยกับนัยต่อนโยบายการเงินและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ: ข้อค้นพบเชิงลึกจาก microdata (Socio-Economic Survey: SES) |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Title | พลวัตหนี้ครัวเรือนไทยกับนัยต่อนโยบายการเงินและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ: ข้อค้นพบเชิงลึกจาก microdata (Socio-Economic Survey: SES) |
| Creator | ธนพล กองพาลี |
| Contributor | พงษ์ธร วราศัย, ที่ปรึกษา |
| Publisher | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
| Publication Year | 2567 |
| Keyword | หนี้ครัวเรือน, นโยบายการเงิน, พลวัตของหนี้ครัวเรือน, Household debt, Household debt dynamic, Monetary policy |
| Abstract | หนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสนใจซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นหลัง COVID-19 ปัญหานี้ได้สร้างความกังวลต่อผู้ดำเนินนโยบายเนื่องจากผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อีกทั้งสร้างความลำบากให้แก่ผู้ดำเนินนโยบายการเงินของไทยภายใต้การดูแลเป้าหมายทั้ง 3 ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน การศึกษานี้จึงมุ่งที่จะทำความเข้าใจปัจจัยที่ขับเคลื่อนหนี้ครัวเรือนไทยจากมุมมองของรายครัวเรือนแต่ละกลุ่ม โดยใช้กรอบการวิเคราะห์พลวัตของหนี้ครัวเรือน (Household Debt Law of Motion Framework) และใช้ข้อมูลจากแบบสำรวจ Socio-conomic Survey (SES) ของไทยปี 2556-2566 โดยวิเคราะห์ความแตกต่างของครัวเรือนตามระดับรายได้ ระดับหนี้ต่อรายได้ อาชีพ พื้นที่อยู่อาศัย และประเภทสินเชื่อที่ครัวเรือนกู้ โดยผลการศึกษาในส่วนนี้พบว่าครัวเรือนที่มีการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ (DTI) ได้แก่ กลุ่มรายได้น้อยที่สุด กลุ่มที่มีสัดส่วน DTI สูงที่สุด กลุ่มที่ไม่ได้ทำงาน โดยเป็นผลจาก Primary Deficit ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผู้ที่อาศัยอยู่นอกเขตเทศบาล (ชนบท) และผู้ที่กู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยยังได้รับผลจาก Fisher’s Effect ที่ปรับเพิ่มขึ้นซึ่งบั่นทอนกระบวนการปรับลดลงของหนี้ครัวเรือน นอกจากนี้ ศึกษาประสิทธิผลของการดำเนินนโยบายการเงินที่มีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมเพื่อให้เห็นต้นทุนหรือประโยชน์ (Trade-Off) ของการดำเนินนโยบายการเงินในมิติของช่วงเวลา พบว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 1 จะส่งผลให้ Primary Deficit ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.55 ขณะเดียวกัน ส่งผลให้ Fisher’s Effect ปรับลดลงร้อยละ 0.27 นอกจากนี้ พบว่าผลของอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลต่อ Fisher’s Effect ของครัวเรือนกลุ่มที่รายได้น้อยที่สุดเท่านั้น ทำให้การดำเนินโยบายการเงินอาจไม่ใช่เครื่องมือเดียวในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่ควรมุ่งเน้นนโยบายที่ช่วงส่งเสริมความมั่นคงด้านรายได้ปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งการสร้างวินัยและส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับกลุ่มเปราะบาง |