|
ความเต็มใจจ่ายในการซื้อปากกาสำหรับฉีดยาอินซูลินของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ได้รับยาอินซูลินชนิด pre-mixed human insulin ในโรงพยาบาลปลวกแดง จังหวัดระยอง |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Title | ความเต็มใจจ่ายในการซื้อปากกาสำหรับฉีดยาอินซูลินของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ได้รับยาอินซูลินชนิด pre-mixed human insulin ในโรงพยาบาลปลวกแดง จังหวัดระยอง |
| Creator | ดุษฎี ถนัดช่าง |
| Contributor | ษิฌา ทับทิมพรรณ์, ที่ปรึกษา |
| Publisher | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
| Publication Year | 2567 |
| Keyword | ความเต็มใจจ่าย, ปากกาฉีดยาอินซูลิน, การประเมินมูลค่าด้วยวิธีการสมมติเหตุการณ์, Willingness to pay, Insulin pen, Contingent Valuation Method (CVM) |
| Abstract | ปากกาฉีดยาอินซูลินเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานฉีดยาได้สะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้จะมีราคาสูงกว่าเข็มฉีดยาทั่วไป แต่สามารถใช้ได้นานและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่เนื่องจากบริษัทผู้จำหน่ายยาฉีดอินซูลินชนิดที่มีการใช้มากที่สุด คือ Pre-Mixed Human Insulin ได้ยุติการสนับสนุนปากกาฉีดยาอินซูลิน และได้เปลี่ยนเป็นการจำหน่ายปากกาฉีดยาอินซูลินทดแทน การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเต็มใจจ่ายของผู้ป่วยเบาหวานในการซื้อปากกาฉีดยาอินซูลินและและวิเคราะห์ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ พฤติกรรมสุขภาพ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน และ ทัศนคติเกี่ยวกับประโยชน์ของปากกาอินซูลิน ที่มีอิทธิพลต่อระดับความเต็มใจจ่าย โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยเบาหวาน จำนวน 82 ราย ณ คลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยใช้แบบสอบถาม และประเมินมูลค่าความเต็มใจจ่ายด้วยวิธีการสมมติเหตุการณ์ (Contingent Valuation Method; CVM) ในรูปแบบคำถามปลายปิดสองขั้น (Double-Bounded Dichotomous Choice) จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและแบบจำลอง Interval Regression ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.73 ยินดีจ่ายเพื่อซื้อปากกาฉีดยาอินซูลินที่ราคาสอบถามครั้งแรก 600 บาท, ร้อยละ 28.05 ยินดีจ่ายสูงกว่า 900 บาท, และร้อยละ 14.63 ยินดีจ่าย ในช่วง 300-600 บาท โดยมีค่าเฉลี่ยความเต็มใจจ่ายเท่ากับ 696.27 บาทต่อด้าม (SE = 11.48; p < 0.001) ปัจจัยที่มีผลให้มีความเต็มใจจ่ายมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.05) ได้แก่ เพศหญิง ช่วงอายุวัยทำงาน, ระดับการศึกษาสูง, รายได้สูง, การมีภาวะแทรกซ้อน, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ดี และการมีรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ขณะที่สถานภาพหย่าร้าง, หม้ายหรือแยกกันอยู่ มีความเต็มใจจ่ายน้อยกว่าสถานภาพสมรสอื่น ๆ และอาชีพข้าราชการที่มีความเต็มใจจ่ายน้อยกว่าอาชีพอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) เช่นกัน ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่มีความเต็มใจจ่ายในระดับที่สอดคล้องกับต้นทุนจริงของปากกาฉีดยาอินซูลิน โดยมีปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลต่อระดับการยินดีจ่าย ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระดับรายได้ ภาวะการมีโรคแทรกซ้อน การมีรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ การส่งเสริมความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมด้านสุขภาพที่เหมาะสม รวมถึง การสนับสนุนเชิงนโยบาย อาจช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพการรักษาและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น |