![]() |
การจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-LEARNING เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ปิยวรรณ บัวพันธ์ |
Title | การจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-LEARNING เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 |
Contributor | เนตรชนก จันทร์สว่าง |
Publisher | คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
Journal Vol. | 36 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 76-87 |
Keyword | การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น, โมบายเลิร์นนิง, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, การคิดวิเคราะห์ |
URL Website | https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edubuu |
Website title | https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edubuu |
ISSN | 2822-0730 (Online) |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จำนวน 8 แผน รวม 14 ชั่วโมง ความเหมาะสมในระดับมาก ถึงมากที่สุด (x ̅= 4.18-4.65) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ค่าความยากอยู่ระหว่าง 0.55-0.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.31-0.79 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 และ 3) แบบวัดการคิดวิเคราะห์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ ค่าความยาก 0.68 ถึง 0.80 ค่าอำนาจจำแนก 0.32 ถึง 0.82 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ One-sample t-test และ Dependent-sample t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning มีการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |