การศึกษาข้อจำกัดทางกฎหมายและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAVs) ในการสนับสนุนการตรวจสอบสัญญาณเครื่องช่วยการเดินอากาศ (NAVAIDs)
รหัสดีโอไอ
Title การศึกษาข้อจำกัดทางกฎหมายและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAVs) ในการสนับสนุนการตรวจสอบสัญญาณเครื่องช่วยการเดินอากาศ (NAVAIDs)
Creator ทักษ์ดนัย วุฒิเสน
Contributor ศุพฤฒิ ถาวรยุติการต์, ที่ปรึกษา
Publisher มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Publication Year 2567
Keyword อากาศยานไร้คนขับ, เครื่องช่วยการเดินอากาศ, การบินทดสอบ, Unmanned Aerial Vehicles (UAVs), Navigation Aids (NAVAIDs), Flight inspection
Abstract การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อจำกัดทางกฎหมายและวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในการนำอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicles (UAVs)) มาใช้สนับสนุนการตรวจสอบสัญญาณเครื่องช่วยการเดินอากาศ (Navigation Aids (NAVAIDs)) ประเภททัศนวิสัย (Visual Aids) ชนิด PAPI และประเภทระบบช่วยการเดินอากาศ (Radio Navigation Aids) ได้แก่ DVOR, DME และ ILS ที่ติดตั้งใช้งานในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์สองประการ ได้แก่ การศึกษาและวิเคราะห์ข้อจำกัดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย เปรียบเทียบกับมาตรฐานสากล เพื่อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนากลไกการกำกับดูแลให้เหมาะสม และการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในการใช้ UAV สำหรับการตรวจสอบด้วยอากาศยานขนาดเล็กที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนสำหรับการพิจารณานำมาใช้งานจริงผลการศึกษาพบว่าการนำ UAV มาใช้ปฏิบัติงานสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ ทั้งในด้านต้นทุนพลังงาน ค่าบำรุงรักษา และค่าดำเนินการที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน ลดผลกระทบต่อการจราจรทางอากาศ รวมถึงช่วยลดมลภาวะทางเสียงและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิเคราะห์อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (Benefit-Cost Ratio (B/C Ratio)) แสดงให้เห็นว่ามีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สูง โดยมีค่าอยู่ที่ 4.80 อย่างไรก็ตาม การศึกษายังพบข้อจำกัดที่สำคัญคือ กรอบกฎหมายและข้อกำหนดในประเทศไทยยังไม่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดช่องว่างในการกำกับดูแลที่ต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุง ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมของผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์จะอยู่ในระดับที่ดี แต่การเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ UAV อย่างเต็มรูปแบบ อาจจำเป็นต้องใช้ต้นทุนการลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง ทั้งในด้านอุปกรณ์ เทคโนโลยีสนับสนุน การฝึกอบรมบุคลากร และการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อกำหนดและมาตรฐาน ส่งผลให้ค่า B/C Ratio ในระยะเริ่มต้น อาจอยู่ในระดับที่ต่ำถึงประมาณ 0.7 ซึ่งเป็นลักษณะของปรากฏการณ์ J-Curve Effect กล่าวคือ การมีต้นทุนสูงและผลตอบแทนที่ต่ำในช่วงเริ่มต้น ก่อนที่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับเมื่อระบบมีเสถียรภาพและพร้อมใช้งานจริงในบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น จึงเป็นข้อเสนอแนะของงานศึกษาสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลที่ควรพัฒนากรอบการกำกับดูแล รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบิน UAV ที่ชัดเจน เหมาะสมสำหรับภารกิจที่ซับซ้อนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี UAV ในการตรวจสอบสัญญาณเครื่องช่วยการเดินอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เป็นการเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของประเทศในระดับสากลต่อไป
Thammasat University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ