|
ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่คุมไม่ได้ ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | นุชนาถ มีมุข |
| Title | ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่คุมไม่ได้ ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ |
| Publisher | โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ |
| Publication Year | 2568 |
| Journal Title | วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 |
| Journal Vol. | 22 |
| Journal No. | 4 |
| Page no. | 322-329 |
| Keyword | โรคเบาหวานชนิดที่ 2, ปัจจัยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด, ระดับน้ำตาลสะสมในเลือด |
| URL Website | https://thaidj.org/index.php/smj/index |
| Website title | วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 |
| ISSN | ISSN 2774-0579 (Online), ISSN 2821-9201 (Print) |
| Abstract | วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่คุมไม่ได้ ที่มารับบริการที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์วิธีการศึกษา: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยความสัมพันธ์เชิงทำนาย กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ที่มารับบริการที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ในช่วงเดือนตุลาคม 2567- เมษายน 2568 จำนวน 177 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน แบบสอบถามการรับรู้ความรุนแรงของโรคเบาหวาน แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ของการรักษา โรคเบาหวาน และแบบสอบถามพฤติกรรมควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และการถอยพหุคูณด้วยวิธีการนำตัวแปรเข้าพร้อมกันทั้งหมดผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ย HbA1c เท่ากับ 8.44% (S.D.=1.87) ปัจจัยทั้ง 10 ตัวแปร ได้แก่ BMI อายุ การศึกษา อาชีพ รายได้ โรคร่วม ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การรับรู้ความรุนแรงของโรคเบาหวาน การรับรู้ประโยชน์ของการรักษาโรคเบาหวาน และพฤติกรรมควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สามารถร่วมกันทำนายความแปรปรวนของระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) ได้ร้อยละ 73 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R2 = .73, F10, 166 = 45.09, p-value< .01) เมื่อพิจารณาแต่ละตัวแปร พบว่าการรับรู้ประโยชน์ของการรักษาโรคเบาหวาน (B = -.13, p-value< .001) และพฤติกรรมควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (ß = -.26, p-value< .001) ที่มีความสัมพันธ์เชิงลบกับระดับ HbA1c อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติสรุป: การรับรู้ประโยชน์ของการรักษาและพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการควบคุม HbA1c ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ผลการศึกษาสนับสนุนการพัฒนาแนวทางการพยาบาลที่เน้นการเสริมสร้างการรับรู้และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์การรักษาคำสำคัญ: โรคเบาหวานชนิดที่ 2, ปัจจัยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด, ระดับน้ำตาลสะสมในเลือด |