![]() |
การศึกษาการเมืองเรื่องการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วม ของประชาชน พ.ศ. 2557-2566 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | สุทธิชัย รักจันทร์ |
Title | การศึกษาการเมืองเรื่องการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วม ของประชาชน พ.ศ. 2557-2566 |
Publisher | คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | วารสารรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ |
Journal Vol. | 16 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 221-256 |
Keyword | การเมือง, ระบอบอำนาจนิยม, การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของประชาชน, เสรีภาพการแสดงออก |
URL Website | https://so05.tci-thaijo.org/index.php/polscicmujournal |
Website title | Political Science and Public Administration Journal |
ISSN | 2985-2269 |
Abstract | "งานวิจัยการเมืองเรื่องการดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของประชาชน ศึกษาในขอบเขตเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2557-2566 นี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการศึกษาบนฐานของข้อมูลเชิงประจักษ์ทางการเมือง เอกสาร งานวิจัย วิทยานิพนธ์และข่าว เพื่อวิเคราะห์การฟ้องคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมกับการปฏิสัมพันธ์ทางการเมืองตั้งแต่ พ.ศ. 2557-2566 ผลการศึกษา พบว่า การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของประชาชน มีปฏิสัมพันธ์ตามบริบททางการเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557-2566 โดยมีพัฒนาการที่เชื่อมโยงกับการรักษาอำนาจของรัฐบาลอำนาจนิยม และส่งผลต่อพัฒนาการประชาธิปไตยตามบริบททางการเมืองไทยที่สำคัญ 3 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงแรกการขึ้นสู่อำนาจของคณะรัฐประหารกับประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ปี พ.ศ. 2557-2561) ช่วงที่สองกลไกการใช้กฎหมายปิดปากหลังรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 (ปี พ.ศ. 2562-2564) และช่วงที่สามการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลพลเรือนจากเลือกตั้งไปสู่วาระการเห็นปัญหาร่วมกันและการแก้ไขการฟ้องคดีปิดปาก (ปี พ.ศ. 2565-2566) จากวาระช่วงเวลาทั้งสามข้างต้นสะท้อนถึงการฟ้องคดีเชิงยุทธศาสตร์เป็นเครื่องมือทางการเมือง มีการดำเนินคดีใช้เพื่อต่อสู้และประนีประนอมต่อรอง มุ่งประสงค์ให้หยุดเคลื่อนไหว หยุดการใช้เสรีภาพการแสดงออก การวิพากษ์วิจารณ์และการรวมตัวชุมนุม สร้างภาระทางคดีและสร้างความกลัว อีกด้านหนึ่งยืนยันถึงการฟ้องคดีว่าเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายเพราะมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ดี ก็มีการการฟ้องคดีโต้กลับด้วย ประโยชน์ของการศึกษานี้ช่วยให้เกิดองค์ความรู้การฉวยใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในมิติทางการเมือง และช่วยให้เกิดความเข้าใจย้อนกลับไปถึงที่มาและความสำคัญของการเสนอนิรโทษกรรมโดยภาคประชาสังคมและพรรคการเมือง" |