การพัฒนาเครื่องทำให้สารสำคัญจากมะม่วงมีอนุภาคในระดับนาโนโมเลกุล
รหัสดีโอไอ
Creator กานต์ จันทระ
Title การพัฒนาเครื่องทำให้สารสำคัญจากมะม่วงมีอนุภาคในระดับนาโนโมเลกุล
Contributor ยุทธศิลป์ ชัยสิทธิ์, ปานฤทัย พุทธทองศรี, ชัยพฤกษ์ หงษ์ลัดดาพร, สรินทร คุ้มเขต, ชมภูนาฏ ชมภูพันธ์
Publisher คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
Publication Year 2568
Journal Title วารสารเกษตรพระวรุณ
Journal Vol. 22
Journal No. 1
Page no. 57-66
Keyword เครื่องมือสกัด, มะม่วง, ระดับนาโนโมเลกุล
URL Website https://li01.tci-thaijo.org/index.php/pajrmu
Website title วารสารเกษตรพระวรุณ
ISSN 2773-9627
Abstract การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครื่องทําให้สารสําคัญจากมะม่วงมีอนุภาคในระดับนาโนโมเลกุล โดยนําส่วนสกัดหยาบ “เบต้าแคโรทีน” จากมะม่วงสุกโดยเฉพาะมะม่วงที่ไม่ผ่านการคัดเกรดส่งออกของจังหวัดเลย มาพัฒนาเป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดนาโนเมตร ผลการศึกษาพบว่า เครื่องทำให้สารสําคัญจากมะม่วงมีอนุภาคในระดับนาโนโมเลกุล มีขนาดเครื่องบริเวณฐาน 60 x 40 เซนติเมตร ความสูงรางสไลด์ 40 เซนติเมตร ประกอบด้วย 3 ใบกวน ต้นกำลัง มอเตอร์ไฟฟ้า สปินเดิลมอเตอร์ ขนาด 1500 วัตต์ ความถี่ 300 เฮิร์ต พร้อมชุดควบคุมความเร็ว (อินเวอร์เตอร์ ขนาด 1500 วัตต์) ชุดทำความร้อน ใช้เตาความร้อนแม่เหล็กไฟฟ้า 220 โวลต์ 50 เฮิร์ต 2200 วัตต์ จากการศึกษาสมรรถนะของเครื่อง พบว่า ความเร็วรอบของเครื่องที่ 900 รอบต่อนาที เป็นความเร็วรอบที่ดีที่สุด ในสภาวะการผลิตที่ประกอบด้วย 1000 มิลลิกรัมต่อลิตร เบต้าแคโรทีน จำนวนร้อยละ 10 โดยน้ำหนัก เติมทวีน 20 ร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก และเลซิทิน ร้อยละ 1 โดยน้ำหนัก ความเร็วรอบของเครื่องมีผลต่อการเกิดอิมัลชัน ซึ่งจะทำให้เบต้าแคโรทีนถูกห่อหุ้มอยู่ภายในหรือจับกับเลซิทิน ทำให้ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระลดลง สอดคล้องกับร้อยละการเกิดอิมัลชันที่พบว่าเมื่อเพิ่มความเร็วรอบร้อยละการเกิดอิมัลชันจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เครื่องทําให้สารสําคัญจากมะม่วงมีอนุภาคในระดับนาโนโมเลกุลที่สร้างขึ้น สามารถลดขนาดของอิมัลชันน้อยกว่า 200 นาโนเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของนาโนอิมัลชันที่ต้องอยู่ในช่วง 20-200 นาโนเมตร
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ