|
การวิเคราะห์โครงข่ายสัณฐานเมือง เพื่อเชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์เชิงพื้นที่การเรียนรู้เวียงเจ็ดลิน |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | ภู สัมปุรณะพันธ์ |
| Title | การวิเคราะห์โครงข่ายสัณฐานเมือง เพื่อเชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์เชิงพื้นที่การเรียนรู้เวียงเจ็ดลิน |
| Contributor | อัมพิกา ชุมมัธยา |
| Publisher | คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ |
| Publication Year | 2568 |
| Journal Title | วารสาร สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย (Built Environment Inquiry – BEI) |
| Journal Vol. | 24 |
| Journal No. | 3 |
| Page no. | 129-145 |
| Keyword | พื้นที่การเชื่อมต่อ, เมืองแห่งการเรียนรู้, เวียงเจ็ดลิน, สเปซซินแทกซ์ |
| URL Website | https://www.tci-thaijo.org/index.php/arch-kku |
| Website title | Built Environment Inquiry Journal Faculty of Architecture Khon Kaen University, Thailand |
| ISSN | 2651-1185 |
| Abstract | เวียงเจ็ดลินเป็น 1 ใน 6 เวียงสำคัญของเชียงใหม่ในอดีต ลักษณะสัณฐานของเมืองเป็นวงกลมที่ยังปรากฎให้เห็นอยู่ปัจจุบัน และเป็นพื้นที่เรียนรู้ระบบนิเวศธรรมชาติบริเวณเชิงดอยสุเทพที่ผสมผสานระหว่างพื้นที่อยู่อาศัยของผู้คนได้ดี แต่ไม่เป็นที่รู้จักในนามเวียงเจ็ดลินมากนักอีกทั้งพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่รกร้าง และไม่ปลอดภัยในเวลากลางคืน การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ในการสำรวจการพัฒนาเส้นทางและพื้นที่การเรียนรู้เวียงเจ็ดลิน โดยการวิเคราะห์ลักษณะเชิงพื้นที่ จากข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง การสำรวจภาคสนาม การสังเกตโดยตรง ร่วมกับการวิเคราะห์ผ่านชุดโปรแกรมสเปซซินแทกซ์ เพื่อประเมินโครงสร้างทางกายภาพและปัจจัยเชิงสังคมมีอิทธิพลต่อการเข้าถึงและการเชื่อมต่อภายในพื้น ผลการศึกษาพบพื้นที่ทุนวัฒนธรรมของเวียงเจ็ดลินจำนวน 8 จุด สำคัญทางประวัติศาสตร์ และเผยให้เห็นว่าพื้นที่การเข้าถึงในระดับต่าง ๆ มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ของชุมชน และศูนย์กลางกิจกรรมเมือง โดยมีค่าเฉลี่ยการเข้าถึงระดับเมือง 0.516202 และระดับย่าน 1.37812 ตามลำดับ กล่าวคือ พื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่ายมีความสอดคล้องกับการใช้พื้นที่ชุมนุมและปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความสำคัญในการสนับสนุนการบูรณาการพัฒนาสภาพแวดล้อมเชิงกายภาพที่ส่งผลต่อการเชื่อมต่อ และเน้นย้ำถึงบทบาทของพื้นที่เหล่านี้ในการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของผู้คนทั้งในระดับเมือง และระดับชุมชนภายใต้แนวคิดเมืองแห่งการเรียนรู้ได้ในอนาคต กล่วงคือพื้นที่มีศักยภาพที่ส่งผลต่อการเป็นจุดศูนย์กลางหลักสำหรับการมีส่วนร่วมของผู้คน และมีศักยภาพระดับรองลงมาซึ่งมีความเฉพาะต่อการเข้าถึงพื้นที่ภายในชุมชนย่านเวียงเจ็ดลิน โดยพื้นที่เหล่านี้มีลักษณะเด่น คือ การเข้าถึงและการเชื่อมต่อที่สูง อันนำมาสู่การสร้างการรับรู้พื้นที่เพื่อการเรียนรู้ สันทนาการ และการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ถึงแม้ว่าการบูรณาการชุดโปรแกรมสเปซซินแทกซ์ จะเป็นเครื่องมือที่สามารถแสดงข้อมูลโครงข่ายเชิงกายภาพที่มีและกำหนดทิศทางการออกแบบเส้นทางการเข้าถึงและพื้นที่เชื่อมต่อการเรียนรู้ได้เบื้องต้นได้ แต่การพัฒนาและออกแบบพื้นที่การเรียนรู้นั้นยังจำเป็นต้องอาศัยการวางแผนเชิงกลยุทธ์ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตผสมผสานการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์กับการพัฒนาเมืองสมัยใหม่อย่างเป็นองค์รวมต่อไป |